เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ที่จำพรรษาแล้วได้ผลัดเปลี่ยนผ้าใหม่
คำว่า "กฐิน" หมายถึงอะไร
"กฐิน" เป็นชื่อของไม้ชนิดหนึ่ง ใช้ขึงเวลาเย็บจีวรภาษาไทยเรียกว่า "ไม้สดึง"
ภาษาบาลีใช้คำว่า "กฐิน"
ภาษาไทยได้ยืมภาาาบาลีมาเป็นภาาษาของตัวเองโดยการเรียกทับศัพท์ไปเลยว่า ผ้ากฐิน หรือบุญกฐิน
คำว่า "กฐิน" เป็นชื่อของสังฆกรรมชนิดหนึ่งในพระพุทธศาสนาที่ต้องใช้พระสงฆ์ร่วมเป็นพยานในการทำ 5 รูปเป็นอย่างน้อย คือ 4 รูปเป็นองค์สงฆ์ หรือพยาน และอีก 1 รูปเป็นองค์ครองผ้ากฐิน รวมเป็น 5 รูป
ภาษาสังฆกรรมของพระเรียกว่า "ปัญจวรรค"
"ธงกฐิน" มีไว้ทำไม
เป็นเครื่องหมายแสดงให้รู้ว่าวัดนี้ได้รับผ้ากฐินแล้ว
อีกนัยหนึ่ง สมัยโบราณการเดินทางไปทอดกฐินต้องออกเดินทางไปแต่เช้า เพราะว่าวัดกับบ้านจะอยู่ห่างไกลกัน ดังนั้นต้องเอาธรรมชาติ คือดาวจระเข้บอกเวลาเพราะแต่ก่อนไม่มีนาฬิกาบอกเวลา พอเคลื่อนกองกฐินไปถึงวัดก็ได้เวลาทอดพอดี
อานิสงส์ของกองกฐินมีอะไรบ้าง
ทำให้เป็นผู้มั่งคั่ง
ทำให้มีจิตใจแช่มชื่น บริสุทธิ์
ทำให้จิตใจตั้งมั่นเป็นสมาธิ
ทำให้เป็นคนรูปงาม
ทำให้มีชื่อเสียงเกียรติคุณน่ายกย่องสรรเสริญ
ทำให้ผู้นั้นแม้ตายแล้ว ก็ได้ไปเกิดในโลกสวรรค์
การทอดผ้าป่าโจรคืออะไร
คือการทำบุญทอดผ้าป่า ถวายเครื่องใช้ที่พระสงฆ์ขาดแคลน และเป็นการทอดผ้าป่าที่ไม่ระบุว่าเป็นวัดใด ไม่มีการพิมพ์ซองแจก ไม่จจำเป็นต้องมีกำหนดวันล่วงหน้า หรือการเตรียมการอย่างใดให้ยุ่งย่าง
ผ้าป่า หรือผ้าบังสุกุล มี 10 ประเภท ได้แแก่
1.ผ้าที่ตกที่ป่าช้า
2.ผ้าที่ตกที่ตลาด
3.ผ้าที่หนูกัด
4.ผ้าที่ปลวกกัด
5.ผ้าที่ถูกไฟไหม้
6.ผ้าที่วัวกัด
7.ผ้าที่แพะกัด
8.ผ้าห่มสถูป
9.ผ้าที่เขาทิ้งในที่อภิเษก
10.ผ้าที่เขานำไปสู่ป่าช้าแล้วนำกลับมา
การทอดผ้าป่าเหมือนหรือแตกต่างกับการทอดกฐินอย่างไร
การทอดผ้าป่าไม่มีกำหนดระยะเวลา สามารถทำได้ทุกฤดูกาล ทำได้ตลอดทั้งปี และในวัดหนึ่งๆนั้นก็สามารถที่จะจัดให้มีการมีการทอดผ้าป่ากี่ครั้งก็ได้ พุทธสาสนิกชนปรารถนาจะทำเมื่อไรก็ย่อมทำได้ตามกำลังศรัทธา อาจจะผสมผสานหรือผนวกเข้ากับเทศกาลประเพณีประจำท้องถิ่นอื่นๆก็ได้ อีกทั้ง ไม่เจาะจงเกี่ยวกับพระภิกษุที่จะรับผ้าป่าแต่อย่างใด ซึ่งการทอดผ้าป่าถือเป็นการทำสังฆทานอย่างหนึ่ง
ส่วนการทอดกฐินนั้น มีการกำหนดเวลา โดยส่วนใหญ่จะเริ่มทอดกันตั้งแต่ แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12
ทานสลากภัตเป็นประเพณีของที่ใด
เป็นประเพณีทำบุญของชาวล้านนา
ทานสลากภัต หรือตานก๋วยสลาก เป็นประเพณีเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล
ทานสลากภัตสอนอะไรบ้าง
สอนใจพระสงฆ์ และสามเณรมิให้ยึดติดในลาภสักการะทั้งหลายรู้จักการตัดกิเลสละวางเรื่อง ตัณหาทั้งหลาย
สอนพุทธศาสนิกชนว่า การบริจาคด้วยความบริสุทธิ์ใจรู้จักเสียสละเพื่อส่วนร่วม ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ยึดมั่นถือมั่นในลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
เป็นการกำจัดกิเลสชนิดหนึ่งเรียกว่าอคติเสียได้ ทาน ศิล การฟังธรรม
ตาลปัตรแปลว่าอะไร
"ตาลปัตร" มาจากคำว่า "ตาล + ปตต" แปลว่า ใบตาล
ตาลปัตร เป็นสิ่งที่คนทั่วไปใช้บังแดด และใช้พัดโบกลมให้ความเย็นมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นเครื่องใช้ที่จำเป็นอย่างหนึ่งในประเทศเมืองร้อน
"ตาลปัตร" จึงหมายถึง พัดที่ทำจากใบตาลนั่นเอง
ทำไมต้องใช้ตาลปัตรบังหน้าเวลาเทศน์
เพื่อกันกลิ่นเหม็นของศพที่เน่าเปื่อย
พระสงฆ์สมัยโบราณจะต้องบังสุกุลผ้าห่อศพไปทำจีวร ดังนั้น ท่านจึงต้องใช้ใบตาลขนาดเล็กมาบังจมูกกันกลิ่น จากนั้นต่อมาก็เลยกลายเป็นประเพณีของพระสงฆ์ที่จะถือตาลปัตรไปทำพิธีต่างๆโดยเฉพาะในพิธีปลงศพ
ทำไมต้องใช้ตาลปัตรระหว่างการแสดงธรรมเทศนา หรือสวดพระปริตร
พระพุทธเจ้าทรงถือตาลปัตรเมื่อเสด็จไปโปรดพระพุทธบิดา คือ พระสุทโธทนะ พระสงฆ์จึงได้ถือปฏิบัติมา
การใช้ตาลปัตรบังหน้าเวลาเทศน์ เพื่อต้องการให้ผู้ฟังฟังแต่ธรรมจากท่านเท่านั้น มิใช่มัวแต่มองหน้าหลงรูปเพราะสภาพจิตใจของผู้ฟังธรรมมีหลายระดับ จึงต้องมีการป้องกันไว้ก่อน
"พัศยศ" คืออะไร
เป็นพัดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่พระสงฆ์พร้อมกับพระราชทานสมณศักดิ์มีลักษณะพิเศษ เป็นสิ่งที่ประกาศเกียรติคุณหรือบอกชั้นยศที่พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานว่าเป็นชั้นอะไร คล้ายกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ข้าราชการหรือประชาชนได้รับ
พัศยศมีกี่ลักษณะ
มี 4 ลักษณะ
1.พัดหน้านาง
2.พัดพุดตาน
3.พัดแฉกเปลวเพลิง
4.พัดแฉก
คำว่า "ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น" บนตาลปัตรหมายความว่าอย่างไร
หลับไม่ตื่น คือ โมหะ ความลุ่มหลง ถ้าคนเราหลงอยู่ในโมหะ ราคะ อัตตา ก็จะตกอยู่ในความมืดมน มองไม่เห็นหนทางแห่งความดี ความสุข
ฟื้นไม่มี คือ กรรม ให้เตือนตนเสมอว่าทำกรรมใดก็ได้กรรมนั้น เมื่อกระทำกรรมดี ก็ได้รับผลกรรมดี เมื่อกระทำกรรมชั่วก็ได้แต่ผลกรรมชั่ว ไม่มีสิ่งใดจะลบล้างหรือชดเชยให้หลุดพ้นจากผลกรรมชั่วได้
หนีไม่ พ้น คือ วิบากกรรม ให้เตือนตนเสมอว่าไม่มีผู้ใดหนีพ้นจากการติเตียน นินทา แม้แต่องค์ปฏิมายังราคิน ฉันใด บุคคลทั่วไปก็ไม่อาจล่วงพ้นได้ ฉันนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น