ตุงสามหางคืออะไร
หมายถึงตุงที่ใช้ในงานศพ
มีรูปร่างคล้ายกับกายมนุษย์ บางทีก็เรียกว่า "ตุงรูปคน หรือตุงผีตาย"
ทำไมงานศพต้องเวียนซ้าย 3
รอบ
เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้ตาย และเป็นปริศนาธรรมเกี่ยวกับพระไตรลักษณ์
คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ในสามภพ คือ
ในโลก นรก และสวรรค์
งานศพเป็นการเตือนสติให้ผู้อยู่พึ่งสังวร
รู้จักการใช้ชีวิตให้มีคุณค่า เพราะสุดท้ายจุดหมายของชีวิตก็จบลงที่เดียวกัน
งานศพมีการจุดพลุสัญญาณด้วยจริงหรือไม่
จริง
ในสมัยโบราณบ้านเรือนแต่ละหลังอยู่ห่างกัน
จึงใช้เสียงพลุเป็นสัญญาณ อาจจะจุดเมื่อเริ่มเคลื่อนศพไปวัดลูกหนึ่ง
เมื่อถึงวัดแล้วลูกหนึ่ง เมื่อพระสวดมาติกาลูกหนึ่ง
และยิงลูกสุดท้ายเมื่อทำพิธีเผา ไม่มีข้อจำกัดอันใดจะให้มีการจุดพลุหรือไม่ก็ได้
แต่ตามต่างจังหวัดยังนิยมจุดกันอยู่
การโปรยทานในงานศพมีเพื่ออะไร
เป็นการอุทิศส่วนกุศลแทนผู้ตาย
คล้ายเป็นการแจกหรืออุทิศทรัพย์สมบัติทั้งหลายที่มีให้กับคนที่อยู่เบื้องหลัง
เป็นปริศนาธรรมทำนองตายแล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ เงินโปรยทานนี้ชาวบ้านนิยมเก็บไว้เป็นขวัญถุง
ทำไมต้องมีการนำผ้าขาวโยนข้ามกองไฟ
หมายถึง ผู้ตายได้ข้ามพ้นของร้อนทั้ง 3
อย่างไปพ้น แล้วของร้อนนั้นได้แก่ โลภะ คือ ความโลภ โทสะ คือ ความโกรธ และ โมหะ
คือความหลง
กลับจากงานศพแล้วต้องเอาใบทับทิมใส่น้ำล้างหน้า
ป้องกันผีตามกลับบ้านจริงหรือ
ไม่จริง
การล้างหน้าล้างตาก่อนเข้าบ้าน
หรือนำใบทับทิมใส่ขันแล้วล้างหน้า ทำเพื่อความเป็นสิริมงคล
ความจริงคือ...
ความเชื่อที่ว่า
เมื่อกลับจากงานศพต้องเดินวกวนอ้อมไปอ้อมมา เพื่อไม่ให้ผีตามมาถึงบ้านได้
สำหรับเจ้าภาพและลูกหลาน หลังทำพิธีเผาแล้ว
เมื่อจะเดินทางกลับบ้านต้องกลับลวดเดียวให้ถึงบ้านเลย ห้ามแวะที่อื่น
ผู้ที่ถือรูปของผู้ตายให้นำรูปกลับมารวดเดียวให้ถึงบ้านอย่าแวะกลางทาง
แล้วนำรูปไปติดไว้ในที่อันสมควร
บวชหน้าศพทำเพื่ออะไร
เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย
และเพื่อให้ผู้ตายได้เห็น ชายผ้าเหลืองของลูกหลาน
ห้ามเผาศพวันไหนบ้าง
ห้ามเผาวันคี่ วันข้างแรม
ห้ามเผาในวันพระ และศุกร์
วันศุกร์ ถือกันว่าวันนี้เป็นวันดี
เหมาะแก่การทำงานมงคล เพราะคำว่า ศุกร์ คล้ายกับคำว่า สุข และ
ยังมีความหมายคล้ายกับคำว่าสุก คือ เผาไม่ไหม้ ด้วย
วันพระ
เป็นวันที่พระท่านอาจมีกิจธุระมาก
ถ้าในช่วงเข้าพรรษาอาจต้องเข้าโบสถ์ฟังสวดปาฏิโมกข์ หรือมีคนมาทำบุญกันที่วัดมาก
การเผาศพจึงต้องเผาวันคู่
ทำไมต้องใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ
น้ำมะพร้าวเป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์
ผู้เข้าสู่มรรคผลนิพพานต้องชำระ จิตให้สะอาดด้วยน้ำทิพย์จากพระธรรม
ทำไมหลังเผาศพแล้วต้องจัดเรียงกระดูก
ขี้เถ้าให้เป็นรูปคนอีก
เพื่อจะบอกว่าได้กลับชาติใหม่แล้วตามวิบากของกรรมต่อไป
การมัดตราสังข์สามเปราะหมายถึงอะไร
มัดที่คอ หมายถึง บ่วงรักลูก
มัดที่มือ หมายถึง บ่วงรักสามี ภรรยา
มัดตรงข้อเท้า หมายถึง
บ่วงรักทรัพย์สมบัติ
ใครติดอยู่สามบ่วงนี้ ไปนิพพานไม่ได้
ต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ
เคาะโลงศพเพื่อให้คนตายมารับศิลใช่หรือไม่
ไม่ใช่
เป็นการบอกให้คนที่มาร่วมงานศพอย่ามัวประมาทขาดสติ
ไม่สนใจในหลักธรรมคำสอน เมื่อตายไปแล้วก็จะหมดโอกาสทำความดี แม้จะเคาะจนโลงแตก
ก็ลุกขึ้นมาไม่ได้
สวดอภิธรรมสวดให้คนเป็นหรือคนตาย
คนเป็น
สวดอภิธรรมมักสวดเป็นภาษาบาลี
คนฟังไม่รู้เรื่อง จึงนึกว่าสวดให้คนตาย แต่จริงๆ แล้ว
เป็นการสวดเพื่อสองคนที่ยังมีชีวิตอยู่
เพื่อจะได้นำหลักธรรมไปปฏิบัติให้เกิดผลดีในชีวิตประจำวัน
การบวชหน้าไฟเป็นการบวชจูงผู้ตายขึ้นสวรรค์ใช่หรือไม่
ไม่ใช่
เป็นการปลงธรรมสังเวชต่อการเกิด แก่
เจ็บ และตายในที่สุด มนุษย์ก็มีเท่านี้
ทำให้เกิดการเบื่อหน่ายต่อชีวิตในโลกียวิสัย ไม่ประสงค์จะอยู่ในเพศฆราวาสแล้ว
พอใจในสมณะเพศ มุ่งปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เข้าสู่มรรคผลนิพพาน
ทำไมต้องนิมนต์พระจูงออกหน้าศพ
เพื่อสอนคนเป็นให้สำนึกว่า
ให้ดำเนินชีวิตตามพระธรรมคำสั่งสอนพระพุทธเจ้านั่นเอง จึงจะอยู่ดีมีสุข
มีความเจริญก้าวหน้า
 |
| ที่มา http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=23688.0 |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น