ประเพณีสงกรานต์
ประเพณีสงกรานต์เริ่มขึ้นวันใด
ก่อนที่เราจะถือว่าวันสงกรานต์เป็นปีใหม่แบบไทย
สมัยโบราณ เราถือเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพราะถือว่าฤดูหนาว
เป็นการเริ่มต้นปี ตรงกับเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม
ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงตามคติพราหมณ์ ซึ่งมีรากเหง้ามาจากการสังเกตธรรมชาติและฤดูกาลผลิต
เป็นวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 หรือประมาณเดือนเมษายนและในปี พ.ศ. 2432 สมัยรัชกาลที่
5 ได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 เมษายน และต่อมาในปีพ.ศ. 2483 จอมพล
ป.พิบูลสงครามได้ประกาศให้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่จนปัจจุบัน อันเป็นการนับแบบสากล
คำว่า "สงกรานต์" แปลว่าอะไร
"สงกรานต์" มาจากภาษาสันสกฤต
แปลว่า ก้าวขึ้น ย่างขึ้น การย้ายที่ การเคลื่อนที่
เป็นวันที่พระอาทิตย์ย่างขึ้นสู่ราศีใหม่
เป็นวันที่พระอาทิตย์โคจรย้ายราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่
ตามการคำนวณของโหร ผู้รู้ทางโหราศาสตร์ ประเพณีสงกรานต์ ปกติมีทั้งหมด 3 วัน
คือเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ถึง 15 เมษายน โดยถือเอาวันที่ 13 เป็นวันต้น
หรือวันมหาสงกรานต์ วันที่ 14 เป็นวันเนา หรือวันกลาง และวันที่ 15 เป็นวันเถลิงศก
หรือ วันสุดท้าย
วันสงกรานต์ทำอะไรกันบ้าง
เรามักทำความสะอาดบ้านเรือน ทำบุญทำทาน
สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ และเล่นสาดน้ำกัน
ประเพณีลอยกระทง
ประเพณีลอยกระทงเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด
แต่เชื่อกันว่าประเพณีลอยกระทงมีการสืบต่อกันมานาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย
โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงเรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า "พิธีจองเปรียญ"
หรือ "การลอยพระประทีป"
ประเพณีลอยกระทงมีเพื่ออะไร
เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา
ให้รำลึกถึงบุญคุณของธรรมชาติที่ให้คุณประโยชน์แก่เรา ทั้งอุปโภค และบริโภค
ทั้งนี้น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมวลมนุษย์
เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้า ตามคติความเชื่อของพราหมณ์ คือ การบูชาพระนารายณ์ เทพผู้รักษาคุ้มครองโลก ผู้รักษาให้อยู่รอดปลอดภัย
เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในการเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งพระองค์เสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา
เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดพญานาค ในนาคะพิภพ
เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า พระอินทร์ได้นำผอบทองมารองรับพระเมาลี (มวยผม) เมื่อครั้งทรงตัดพระเมาลีตอนตัดสินพระทัยบรรพชาในครั้งแรก แล้วนำไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์จุฬามณี
เพื่อบูชาท้าวพกาพรหมบนสวรรค์ชั้นพรหมโลก ผู้ให้กำเนิดพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เมื่อครั้งเป็นแม่กาผู้ให้กำเนิดไข่ 5 ฟอง แล้วกำเนิดออกมาเป็นมนุษย์ ได้แก่ กกุสันโธ โกนาคมโน กัสสโป โคตโม และเมตเตยโย
เพื่อบูชาพระอุปคุตเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึก หรือสะดือทะเล ผู้ปราบพญามารได้ และหันมานับถือพระรัตนตรัย พระอุปคุตไทยเรียกว่า พระบัวเข็ม ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวไทยทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และชาวพม่า
เพื่อบูชาพระศรีอริยเมตไตร ซึ่งเป็นเทวโพธิสัตว์ในอนาคตจะมาจุติบนโลกมนุษย์ และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นองค์สุดท้ายของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์
เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งน้ำ และเป็นการแสดงความคารวะ ความขออภัยที่ได้ลงอาบ หรือได้ปล่อยสิ่งปฏิกูลลงน้ำ ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นการขมาโทษต่อเทพเจ้าแห่งน้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น